Top


พจนานุกรมภาษาฮินดี-ไทย-อังกฤษ จากมุรลีที่ใช้ในภาษาไทยและเกี่ยวข้องกับภาษาไทย



สารจาก
ทาทีชานกี
ทีทีนิรมล
ทีทีศีลู


last update: May 07 2025 12:01
รับฟังย้อนหลัง คลิกที่นี่

ประเด็นตอนต้น
และท้ายของมุรลี



วรทาน

ศรีมัทภควัทคีตา
สัตวจนะ - ข้อคิดประจำวัน

"เสี่ยงพร" ได้ที่นี่

วีดีโอบทการทำสมาธิของราชโยคะ


วีดีโอเพลงประกอบความรู้ของราชโยคะ


รับชม "วีดีโอพร" ได้ที่นี่

อุทยานพระพรหม

ยาตราย้อนรอยประวัติศาสตร์
และภูมิศาตร์โลก


สารจากผู้จัดทำ

ติดต่อ

ตารางเทียบเสียงสระและพยัญชนะภาษาฮินดี

  คลิกเพื่อรับชมวีดีโอญาณ หรือสแกนคิวอาร์โค้ด  

สารบัญ - ประเภทของคำศัพท์ (คลิกเพื่อดู)
  1. ประชาบิดา พรหมากุมารี อิศวรียะ วิศว วิทยาลัย Brahma Kumaris World Spiritual University
  2. สี่วิชา – อลังการของวิษณุ Four Subjects - Decorations of Vishnu
  3. มุรลี และ ญาณ Murli and Gyan
  4. องค์ประกอบและความสามารถของอาตมา Faculties, Abilities of Soul องค์ประกอบและความสามารถของอาตมา
  5. นามของบรมบิดา บรมาตมา Names of the Supreme Father, Supreme Soul
  6. การยกย่องสรรเสริญของศิวพาพาในสังคมยุค Shiv Baba’s Praise at the Confluence Age
  7. มาลา – สายลูกประคำ Rosaries
  8. ตัวละครในมหาภารตะ รามายณะ และภาควัต พร้อมทั้งคำอธิบายนามของตัวละครตามญาณของพาพา Characters of Mahabharat, Ramayan, and Bhagawad including Explanation of their Names according to Baba's Gyan
  9. เรื่องเล่า ตัวละคร พิธีกรรม และนามต่างๆ ของหนทางภักดีและโดยทั่วไป ที่กล่าวไว้ในมุรลี General and Bhakti Path Stories, Characters, Rituals and Names mentioned in Murlis
  10. ธรรม ผู้สถาปนาธรรม คุรุ และคัมภีร์ต่างๆ ของหนทางภักดีที่กล่าวไว้ในมุรลี Religions, Religion Founders, Gurus and Scriptures of Bhakti Path mentioned in Murlis
  11. เทศกาลในหนทางภักดีที่เกี่ยวข้องกับสังคมยุค Bhakti Festivals related to the Confluence Age
  12. สถานที่ เมือง รัฐ และพลเมืองต่างๆ ที่กล่าวไว้ในมุรลี Places, Towns, States and Citizens mentioned in Murlis
  13. วัดและอนุสรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสังคมยุค Temples, Memorials related to the Confluence Age
  14. สมญาของยุคทองที่ใช้ในมุรลี Titles of the Golden age used in Murlis
  15. วรรณะ วงศ์ พงศ์ Dynasties
  16. ประชาบิดา พรหมา Prajapita Brahma
  17. การยกย่องสรรเสริญของศรีกฤษณะในหนทางภักดี Praise of the Deity Shri Krishna
  18. นักแสดงหลักในละครโลก Main Actors in the World Drama
  19. มรดกของบรมบิดา Inheritance of the Supreme Father
  20. สมญาของครอบครัว Family Titles
  21. สมญาเพื่อความเคารพในตนเอง Titles for Self-Respect
  22. ดอกไม้ Flowers
  23. ผู้บริหารและผู้อาวุโสของประชาบิดา พรหมากุมารี อิศวรียะ วิศว วิทยาลัย Administrators and Seniors of Prajapita Brahma Kumaris World Spiritual University
  24. สภาพต่างๆ และ การฝึกฝน เพ่งเพียรปฎิบัติของอาตมา Spiritual Stages and Effort
  25. ละครโลก กัลป์ และยุคต่างๆ World Drama, Kalpa and Yugs
  26. ชัคทัมพา สรัสวดี Jagadamba Saraswati
  27. กรรมและผลของกรรม Karma Philosophy
  28. สามโลก และธาตุของธรรมชาติ The Three Worlds and Elements of Nature
  29. เบ็ดเตล็ด Miscellaneous
กลับสู่หน้าหลัก Main page
ประเภทที่แสดง --> 6. การยกย่องสรรเสริญของศิวพาพาในสังคมยุค Shiv Baba’s Praise at the Confluence Age

ใส่คำที่ต้องการค้นหา แล้วกดปุ่ม
ปิด-เปิด Column ที่ต้องการ 12345
No.1. การเขียนทับศัพท์ภาษาไทยแบบปรับรูป/หรือภาษาไทยใช้ 2. การเขียนทับศัพท์ภาษาไทยแบบคงรูป 3. ภาษาฮินดี 4. อักษรโรมัน 5. ความหมายในภาษาไทย
20อโภกตาอโภกฺตาअभोक्ता Abhoktaการอยู่เหนือประสบการณ์จากผลของการกระทำและประสาทสัมผัส
25อลัฟอลฟअलफ
Alaph
พยัญชนะตัวแรกของภาษาสินธีที่ออกเสียงว่า อลิฟ

ในญาณ พาพาได้กล่าวถึง อลัฟ ว่าหมายถึง ศิวะ

อลัฟ หมายถึง ผู้เดียว นั่นคือ ศิวะ ผู้เป็นบรมบิดา บรมาตมา หนึ่งเดียวเท่านั้น
35อโสจตาอโสจตาअसोचता asocatāการอยู่เหนือความคิดที่ไม่เกิดผล
93ครีบะ นิวาซะครีบ นิวาซगरीब निवाज़ Garīb nivāzครีบะ นิวาซะ เป็นสมญาของบรมบิดา บรมาตมา หมายถึง ผู้ยกระดับ ผู้ให้การช่วยเหลือค้ำจุนแก่ลูก ผู้เป็นคนจนที่ธรรมดาและไม่ได้มีสถานภาพทางโลก หรือ มั่งคั่ง ร่ำรวยในทางว้ตถุมากมาย

ครีบะ นิวาซะ เป็นคำในภาษาอูรดู โดย ครีบะ แปลว่า คนจน และ นิวาซะ แปลว่า ผู้ยกระดับ ผู้ให้การช่วยเหลือค้ำจุน
124ชคัตคุรุชคตคุรุजगतगुरु
Jagataguru
พาพา คือ ชคัตคุรุ ผู้นำทางอาตมากลับบรมธามะ บ้านของอาตมา นั่นคือ ได้รับมุกติ ชีวันมุกติ

คุรุ เป็นคำภาษาสันสกฤต หมายถึง ผู้ที่เป็นครู ผู้นำทาง ผู้เชี่ยวชาญในความรู้ หรือ สาขาใดๆ

คุรุ คือ ผู้นำทางให้กับอาตมา และยังหมายถึง ผู้ขจัดความมืด (ความไม่รู้) และนำไปสู่แสงสว่าง (ความรู้) และ ชคัต แปลว่า โลก
137ชานี ชานันหาระชานี ชานนหารजानी जाननहार Jānī Jānanahārชานี ชานันหาระ เป็นสมญาของบรมบิดา บรมาตมา หมายถึง ผู้ล่วงรู้ถึงญาณทั้งหมด รวมทั้งตอนต้น ตอนกลาง และตอนจบของละครโลก แต่ไม่ได้รู้ถึงสิ่งที่อยู่ในหัวใจของทุกคนเหมือนที่เข้าใจกันในหนทางภักดี
144ญาเณศวร (บาลี) ญาเณศฺวร ज्ञानेश्वर Gñāneśvar (Hindi)ญาเณศวร มาจากคำว่า ญาณ และ อิศวร นั่นคือ อิศวรแห่งญาณ ที่รวมของญาณทั้งหมด ซึ่งเป็นสมญาที่ให้กับบรมบิดา บรมาตมา

อิศวร เป็นอีกนามหนึ่งของ "ศิวะ" ผู้เป็นบรมบิดา บรมาตมา
155ตรีกาลทรรศี ตฺริกาลทรฺศีत्रिकालदर्शी Trikāladarshīตรีกาลทรรศี เป็นสมญาของพาพา หมายถึง ผู้เห็นกาลเวลาทั้งสาม ได้แก่ อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต

ตรีกาลทรรศี มาจาก 3 คำ ได้แก่ ตรี แปลว่า สาม กาล แปลว่า เวลา และ ทรรศี แปลว่า ผู้เห็น

ในสังคมยุคนี้ พาพามาให้ความรู้แก่ลูกและทำให้ลูกเป็นตรีกาลทรรศี
157ตริมูรติ/ตรีมูรติตฺริมูรฺติत्रिमूर्ति
Trimūrti
ตรีมูรติ เป็นบทบาททั้งสาม ที่เกิดขึ้นในสังคมยุค เมื่อศิวพาพาเป็นผู้สร้างได้อวตารลงมา ได้แก่ 1. พรหมา บทบาทของสถาปนา 2. วิษณุ บทบาทของปาลนา (บำรุงรักษา) และ 3. ศังกร บทบาทของวินาศ

ศิวพาพาเป็นผู้สร้าง ได้อวตารลงมาในร่างของพรหมาที่ทำให้เกิดการสถาปนาด้วยการมาให้ญาณแก่ลูก จึงทำให้เกิดวินาศของกิเลสและสิ่งที่ไม่ดีงามในอาตมา ทำให้ส่งผลถึงวินาศในระดับวัตถุด้วย จากการที่ลูกกลับมาอยู่อย่างปราศจากร่าง (อสรีรี) และทำตปัสยา (ตบะ) ที่แสดงในรูปของศังกร หลังจากนั้น ลูกจะกลายเป็นเทวีและเทวดา แสดงในรูปของวิษณุที่เต็มพร้อม (สัมปันน) ด้วยคุณบัติที่ดีงามทั้งหมด (สรรพคุณ) สมบูรณ์ 16 องศา ปราศจากกิเลส (นิรพิการ) อย่างสมบูรณ์ ปราศจากความก้าวร้าวรุนแรง (นิรหิงสา) ทั้งร่างกายและอาตมา ที่ให้ปาลนาของความบริสุทธิ์ถึงครึ่งหนึ่งของจักรในสัตยุคและเตรตายุค

ในหนทางภักดี ได้แสดงตรีมูรติในรูปเทวดาของพรหมา วิษณุ และ ศังกร โดยไม่ได้กล่าวถึงศิวะว่าเป็นผู้สร้าง แต่กล่าวว่าศิวะและศังกรเป็นองค์เดียวกัน

ปาลนา เป็นรากศัพท์ของคำว่า บาล หมายถึง หล่อเลี้ยง รักษา
165ทาทาทาทาदादा
dādā
สำหรับ ราชโยคะ คำว่า ทาทา ในภาษาฮินดี หมายถึง ปู่ คือ ศิวพาพา ไม่ใช่ พรหมาพาพา

ในภาษาสินธี คำว่า ทาทา หมายถึง พี่ชายผู้อาวุโส คือ พรหมาพาพา หรือ ใช้เรียกภาย (พี่น้องชาย) อาวุโส ผู้ที่ร่วมยัญนี้ตั้งแต่เริ่มต้น
167ทิลารามทิลารามदिलाराम
Dilārām
ทิลาราม เป็นสมญาของศิวพาพา หมายถึง ผู้ทำให้หัวใจผ่อนคลายสบาย

ทิล แปลว่า หัวใจ และ อาราม แปลว่า ความสบาย ความรื่นรมย์ ความเพลิดเพลิน
174ทีปราชทีปราชदीपराज
Dīparāj
ทีปราช เป็นสมญาของบรมบิดา บรมาตมา หมายถึง บรม(สูงสุด) ของแสงหรือตะเกียง และเป็นสมญาของอาตมาด้วย หมายถึง ราชาแห่งแสงหรือตะเกียง

ทีปราช มาจากคำว่า ทีป หมายถึง แสง ตะเกียง และ ราช หมายถึง ผู้มีอำนาจในการปกครอง ผู้เป็นราชา ดังนั้น ตามตัวอักษรแล้ว ทีปราช หมายถึง ราชาแห่งแสงหรือตะเกียง
188ธรรมราชธรฺมราชधर्मराज Dharmarājธรรมราช หมายถึง ราชาแห่งธรรม เป็นผู้มีอำนาจในการปกครองที่มีความถูกต้อง ยุติธรรม นั่นคือ ผู้พิพากษาสูงสุด

แต่ละอาตมาได้มีบันทึกการกระทำของตนที่ซ่อนอยู่ในอาตมา โดยบันทึกที่ซ่อนอยู่นี้เองจะเป็นเหมือนธรรมราชที่ตัดสินผลของการกระทำเหล่านั้น และทำให้อาตมาชำระสะสางบัญชีกรรมทั้งหมด ด้วยเหตุนี้เอง พาพาไม่ได้ลงโทษใครจากการกระทำใดๆ ของอาตมา แต่ท่านทำผ่านธรรมราช ดังนั้นพาพากล่าวว่า ธรรมราช คือ มือขวาของท่าน
197นิราการนิราการनिराकार
Nirākār
นิราการ หมายถึง ปราศจากร่าง ไม่มีทั้งสาการ (ร่างกายที่เป็นวัตถุธาตุ) และอาการ (ร่างแสงที่ละเอียดอ่อน) นั่นคือ อาตมาอยู่ในรูปดั้งเดิมที่บรมธามะ

นิราการ มาจากคำว่า นิร แปลว่า ไม่มี รวมกับคำว่า สาการ และ อาการ
212บรมบิดาปรมปิตาपरमपिता
Paramapitā
บรมบิดา คือ บิดาสูงสุดของอาตมาทั้งหมด นั่นหมายถึง ศิวพาพา

คำว่า ปรม ในภาษาไทย คือ บรม แปลว่า สูงสุด
213บรมาตมา (อ่านว่า บอ-ระ-มาตฺ-มา)ปรมาตฺมาपरमात्मा
Paramātmā
บรมาตมา คือ อาตมาที่สูงสุด นั่นหมายถึง ศิวพาพา

บรมาตมา มาจากคำว่า ปรม กับ อาตมา และ ปรม ในภาษาไทย คือ บรม แปลว่า สูงสุด
242พาปะพาปबाप Bāpพาปะ หมายถึง ศิวพาพา ผู้เป็น บรมบิดาสูงสุด บรมาตมาของอาตมาทั้งหมด

พาปะ เป็นรากศัพท์ของคำว่า พ่อ
243พาปทาทาพาปทาทาबापदादा
Bāpdādā
ศิวพาพา และ พรหมาพาพา อยู่รวมกัน จึงเรียกว่า พาปทาทา นั่นคือ พาปะ หมายถึง ศิวพาพา ผู้เป็น บรมบิดา บรมาตมา และทาทา หมายถึง พรหมาพาพา ผู้เป็นพี่ชายที่อาวุโส โดยคำว่า ทาทา ในภาษาสินธี แปลว่า พี่ชายที่อาวุโส

ทั้งนี้ คำว่า ทาทา ในภาษาฮินดี หมายถึง ปู่ นั่นคือ ศิวพาพา ไม่ใช่ พรหมาพาพา

พาพาและพาปะ เป็นรากศัพท์ของคำว่า พ่อ
244พาปูพาปูबापू
Bāpū
พาปู หมายถึง พ่อ

โดยทั่วไปจะเป็นการกล่าวถึง มหาตมะ คานธี ที่ได้รับเกียรติว่าเป็นพาปู ของประเทศอินเดีย

แท้จริงแล้ว พาพา คือ พาปูของโลก หมายถึงพาปูของอาตมาทั้งหมด ไม่เพียงพาปูของประเทศอินเดียเท่านั้น
379พฤกษปติ/พฤกษบดี (อ่านว่า พฺรึก-สะ-ปะ-ติ/พฺรึก-สะ-บอ-ดี)วฺฤกฺษบดี वृक्षपति Vṛkṣapatiพฤกษบดี เป็นสมญาของบรมบิดา บรมาตมา หมายถึง ผู้สร้าง เจ้าของ นายของต้นไม้ ที่พาพาเปรียบต้นไม้กับโลกมนุษย์ โดยพาพามาสร้างต้นไม้ใหม่ โลกใหม่ ด้วยการมาให้ญาณ และทำให้โลกเก่าเปลี่ยนเป็นโลกใหม่ สวรรค์

พาพาใช้คำว่า พฤกษบดี คู่กับคำว่า พฤหัสบดี ซี่งเป็นสมญาของพาพาเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ พฤหัสบดี หมายถึง พาพา ผู้เป็นคุรุของเทวดา ที่มาให้ญาณแก่ลูก และทำให้ได้รับมุกติ และ ชีวันมุกติ กลายเป็น เทวี เทวดา

บดี แปลว่า ผู้สร้าง เจ้าของ นาย สามี และ พฤกษ แปลว่า ต้นไม้

ดังนั้น วันพฤหัสบดี จึงได้ชื่อว่าเป็นวันคุรุ หรือ วันครู แท้จริงแล้ว คือ พาพา ผู้เป็นสัตคุรุ
408ศิวลิงค์/ศิวลึงค์ศิวลิงฺคशिवलिंग
Śivaliṅg
ลิงค์/ลึงค์ ในภาษาฮินดี หมายถึง สัญลักษณ์ หรือ เพศ

ในหนทางภักดีได้แสดง ศิวะ ผู้ที่นิราการ เป็นชโยติพินทุ (จุดแห่งแสง) ในรูปของชโยติลึงค์ หรือเรียกว่า ศิวลึงค์ แต่เนื่องจากไม่สามารถทำภักดีให้กับจุดแห่งแสงได้ จึงทำเป็นรูปรัศมีแสงที่เป็นไข่วงรีที่ทำด้วยเพชร ทองคำ หรือ หิน แสดงเป็นสัญลักษณ์ของศิวะ

พินทุ หมายถึง จุด และ ชโยติ หมายถึง แสง
409ศิวาจารย์ศิวาจารยะशिवाचार्य
Śivācārya
ศิวาจารย์ เป็นสมญาที่ให้ไว้กับศิวพาพา ที่หมายถึง ศิวะ ผู้เป็นอาจารย์

อาจารย์ เป็นคำสันสกฤต หมายถึง ผู้ที่สอนด้วยการประพฤติ ปฏิบัติของตนเอง หรือ ครูผู้ที่ใช้การดำเนินชีวิตเป็นตัวอย่าง

ศิวพาพา คือ สาครของญาณ และดังนั้น ท่าน คือ ศิวาจารย์ ผู้ให้ญาณแก่ลูก

ศิวาจารย์ มาจากคำว่า ศิวะ กับ อาจารย์

สาคร หมายถึง มหาสมุทร
426สัตคุรุ/สัทคุรุสตคุรุ/สทฺคุรุसतगुरु/सद्गुरु
Sataguru/Sadguru
พาพา คือ สัตคุรุ/สัทคุรุ ผู้เป็นสัตย์ที่นำทางอาตมากลับบรมธามะ บ้านของอาตมา นั่นคือ ได้รับมุกติ ชีวันมุกติ

คุรุ เป็นคำภาษาสันสกฤต หมายถึง ผู้ที่เป็นครู ผู้นำทาง ผู้เชี่ยวชาญในความรู้ หรือ สาขาใดๆ

คุรุ คือ ผู้นำทางให้กับอาตมา และยังหมายถึง ผู้ขจัดความมืด (ความไม่รู้) และนำไปสู่แสงสว่าง (ความรู้)
429สัต จิต อานนท์/สัจจิทานนท์ สตฺ จิตฺ อานนฺท/สจฺจิทานนฺทसत् चित् आनन्द/सच्चिदानन्द Sat Cit Ānand/Saccidānandบรมบิดา บรมาตมา คือ สัต จิต อานนท์ โดยมีความหมาย ดังนี้

1) สัต หมายถึง สัตย์ สัจ ความจริง 2) จิต หมายถึง มีชีวิต (มาจากคำว่า ไจตนยะ/ไจตนย์) 3) อานนท์ (อานันท์) หมายถึง อตีนทริยสุข เป็นความสุขเหนืออวัยวะและประสาทสัมผัสของร่างกาย
430สัต ศรี อกาลสตฺ ศฺรี อกาลसत् श्री अकाल
Sat Śrī Akāl
คุรุนานัก ผู้สถาปนาสิกข์ธรรม ได้กล่าวถึง บรมบิดา บรมาตมา ว่าเป็น สัต ศรี อกาล โดยมีความหมาย ดังนี้ 1) สัต หมายถึง สัตย์ สัจ ความจริง 2) ศรี หมายถึง สิริมงคล ความสูงส่ง ความรุ่งเรือง ความงาม ความเจริญ 3) อกาล หมายถึง ไม่ตาย เหนือความตาย (กาล แปลว่า เวลา ความตาย)

ต่อมา ในผู้ทำตามสิกข์ธรรม ได้ใช้คำ สัต ศรี อกาล สำหรับการทักทายกันในภาษาปัญจาบี หรือ ปัญชาพี โดยไม่ได้เข้าใจความหมายดั้งเดิม
435สรรโวทยาสรฺโวทยาसर्वोदया Sarvodayāสรรโวทยา เป็นสมญาของบรมบิดา บรมาตมา หมายถึง ผู้ที่มีความเมตตาต่อทุกคน ท่านยกระดับไม่ว่าจะเป็นนักบวช นักบุญ คนพิการ โสเภณี เป็นต้น และทำให้ลูก กลับมาสัมปันนและสมบูรณ์

สรรโวทยา มาจากคำว่า สรรพ แปลว่า ทุกสิ่ง ทั้งปวง ทั้งหมด กับ ทยา แปลว่า ความเมตตา ความกรุณา

สัมปันน เขียนทับศัพท์ภาษาไทยแบบคงรูปว่า สมฺปนฺน หมายถึง เต็มพร้อม
461หริหริहरि
Hari
หริ หมายถึง ผู้ขจัดความทุกข์ โดยในหนทางภักดี หริ เป็นอีกนามของกฤษณะและวิษณุ แท้จริงแล้วเป็นศิวพาพา ผู้ขจัดความทุกข์ให้ลูกในสังคมยุค
468หาซีรา หชูระหาซีรา หชูรहाज़िरा हजूर hāzirā hajūrหชูระ หมายถึง ผู้เป็นนาย นั่นคือ ศิวพาพา และ หาซีรา หมายถึง การมาปรากฏ

หาซีรา หชูระ คือ การมาปรากฏของศิวพาพา ผู้เป็นนาย และพาพาให้ลูกพิสูจน์ความรักที่มีต่อท่านด้วย ชี หาซีระ นั่นคือ ตอบรับและพร้อมปรากฏอยู่ในงานรับใช้เสมอ





You are visitors No.12600 since 16th September 2024.

© 2025 Brahma Kumaris Thailand. All rights reserved.